สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย #แนวพุทธ (2562)

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย แนวพุทธ รวมวัดในจังหวัดเชียงรายที่ไม่ควรพลาด เมื่อท่านมาแอ่วเมืองเหนือ
เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีวัดมากจังหวัดหนึ่ง ถ้าท่านจะไหว้พระ 9 วัด สามารถหาวัด ได้ง่ายๆ หมู่บ้านละวัดเลยทีเดียว ใช้เวลาไหว้พระ 9 วัด ในเวลาอันสั้นได้อย่างสะบาย วันนี้เราจะแนะนำวัน วัดศักดิ์สิทธิ์ ในจังหวัดเชียงรายที่ไม่ควรพลาด 7 วัดสำคัญ ดังนี้ วัดพระแก้วเชียงราย วัดพระธาตุจอมกิตติ วัดพระสิงห์เชียงราย วัดพระธาตุผาเงา วัดถ้ำป่าอาชาทอง วัดพระธาตุดอยจอมทอง และ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย แนวพุทธ

1. วัดพระแก้วเชียงราย

วันพระแก้ว เป็น สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย เป็นวัดสำคัญประจำเมืองวัดนี้ เป็นวัดที่มีการค้นพบพระแก้วมรกตหรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทยที่ปัจจุบัน ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ตามประวัติการค้นพบระบุว่า เมื่อปี พ.ศ.1897 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่นั้น ได้เกิดฟ้าผ่ามายังเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง แล้วพบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์นั้น ต่อมาเมื่อกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียว แกะสลักขึ้นด้วยหยกทั้งองค์ที่มีความสวยงามวิจิตร จึงได้มีการสร้างวัดพระแก้วขึ้นไว้เป็นที่ประดิษฐาน
แม้ปัจจุบันองค์จริงได้ย้ายไปประดิษฐานที่กรุงเทพฯ แต่ชาวเชียงรายได้ร่วมใจกันสร้างองค์จำลองขึ้นมา และทำด้วยหยกเช่นเดิม เนื่องในวโรกาสมงคลครบรอบ 90 พรรษาของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันที่ 21 ต.ค. พ.ศ.2533 และประดิษฐานอยู่ในหอพระหยก ที่มีกำแพงด้านในตกแต่งด้วยภาพวาดเล่าขานตำนานพระแก้วมรกตเรื่องราวการสร้างและการอัญเชิญพระหยกเชียงราย

นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบเชียงแสน ยังมีพระประธานที่ชาวเชียงรายเรียกกันว่า พระเจ้าล้านทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริด ขนาดใหญ่ที่มีความงดงามที่สุดในประเทศไทยเป็นที่เลื่อมใสของชาวเชียงรายที่หมั่นแวะมาสักการะกันอยู่เสมอ สำหรับพระเจดีย์ที่โดนฟ้าผ่านั้นก็ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่โดยได้รับการบูรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสุดท้ายสิ่งที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่ควรเยี่ยมชม คือ พิพิธภัณฑ์โฮงหลวงแสงแก้ว พิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ที่จัดแสดงพระพุทธรูปและศิลปวัฒนธรรมอันเกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบทันสมัย สอบถามเพิ่มเติม โทร.053-71 1-385, 053-75 1-875 เว็บไซต์ www.watphrakaew-chiangrai.com

ที่อยู่ : วัดพระแก้วเชียงราย ถนนไตรรัตน์  ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

เบอร์โทร 053-71 1-385, 053-75 1-875

วัดพระแก้วเชียงราย
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org

2. วัดพระธาตุจอมกิตติ

วัดพระธาตุจอมกิตติ เป็น สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย วัดแห่งนี้มีความเกี่ยวพันกับล้านนาสมัยโบราณ เพราะเป็นสถานที่ที่พระเจ้าพรหมราชและประชาชน ร่วมกันจัดงานบุญฉลองครั้งยิ่งใหญ่เนื่องในโอกาสที่พระองค์สามารถกู้เอกราชมาจากขอมได้สำเร็จ พระธาตุจอมกิตติ จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการประกาศชัยชนะและความเป็นอิสระ ทั้งยังชวนให้เราระลึกถึง ความเสียสละและความกล้าหาญของบรรพบุรุษไทยในการสู้รบครั้งนั้น โดยปัจจุบันยังคงมีการจัดพิธี บวงสรวงพระธาตุจอมกิตติเป็นประจำทุกปี และมีการทำพิธีเสริมดวงชะตาให้กับประเทศไทย
ตำนานแห่งพระธาตุ
ตามตำนานโยนกระบุว่า พระเจ้าสิงหนวัติ กษัตริย์องค์แรกแห่งราชวงศ์โยนก ได้รับพระเกศาของพระพุทธเจ้า พระองค์จึงได้สร้างเจดีย์บรรจุพระเกศาไว้บนดอยน้อยซึ่งคือพื้นที่แห่งนี้ในปัจจุบัน ต่อมา พ.ศ.1483 พระเจ้าพังคราช กษัตริย์ราชวงศ์โยนก และพระเจ้าพรหมมหาราช โอรส ได้รับพระไตรปิฎกและพระบรมสารีริกธาตุจากพระเถระชาวโกศลนคร รวม 16 ชิ้น จึงแบ่งบางส่วนให้กับพญาเรือนแก้ว ผู้ครองเมืองพะเยา พญาเรือนแก้วได้นำไปประดิษฐานไว้บนพระธาตุที่ดอยจอมทอง เมืองพะเยา ส่วนพระบรมสารีริกธาตุที่เหลือ ได้รับการบรรจุในโกศลทอง ประดิษฐานไว้ ณ ดอยน้อย และในปี พ.ศ.1483 ได้โปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ ครอบทับเจดีย์องค์เดิมที่มีขนาดกว้าง 3 วา 2 ศอก สูง 6 วา 2 ศอก เป็นแบบย่อมุมไม้สิบสองในสมัยเชียงแสน ต่อมาเจดีย์พระธาตุทรุดโทรมมาก เจ้าฟ้าเฉลิมเมือง เจ้าเมืองเชียงแสน ร่วมกับชาวเมืองได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจนถึงปัจจุบันเจดีย์ก็ยังคงอยู่ในสภาพสวยงามเช่นในอดีต นอกจากนี้ สมาคมท่องเที่ยวเชียงรายได้จัดแพ็กเก็จทัวร์พระธาตุ 9 จอม ซึ่งมีวัดพระธาตุจอมกิตติรวมอยู่ด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 053-601-299
วัดพระธาตุจอมกิตติ
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org

3. วัดพระสิงห์เชียงราย

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย อีกวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีความเก่าแก่ของจังหวัดเชียงราย ซึ่งชื่อ วัดพระสิงห์ นั้น ได้มาจาก พระสิงห์ อันเป็นชื่อของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ที่คนไทยนับถือกันแพร่หลาย โดยในอดีตเมื่อราวๆ พ.ศ.1924 เจ้าพรหมผู้ครองเมืองเชียงรายได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์องค์จริงมาใช้เป็นแบบหล่อองค์จำลองขึ้น แล้วประดิษฐานไว้ที่วัดพระสิงห์แห่งนี้ และปัจจุบันวัดพระสิงห์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
นอกจากเรื่องราวของพระสิงห์แล้ว สถาปัตยกรรมของวัดเองก็มีความโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยตัวอุโบสถนั้นสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตกแต่งสไตล์ล้านนาที่สวยงาม โดยเฉพาะบานประตูขนาดใหญ่ที่แกะสลักเป็นเรื่องราวปริศนาธรรมแทนธาตุทั้ง 4 โดยปรากฏเป็นรูปสัตว์ทั้ง 4 ชนิด คือ ช้างแทนธาตุดิน นากแทนธาตุน้ำ ครุฑแทน ธาตุลม  และสิงโตแทนธาตุไฟ ออกแบบโดย ถวัลย์ ดัชนี และแกะสลักโดยสล่าอำนวย บัวงาม ศิลปินมากฝีมือ ส่วนทางทิศตะวันตกด้านหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์เก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะด้วยการทาสีทองอร่ามตา อีกทั้งยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองบนแผ่นศิลาซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช ที่มีจารึกอักษรขอมโบราณ ว่า “กุสลา ธมฺมา อกุสลา ธมฺมา อพยากตา ธมฺมา” ไว้ให้สักการะบูชา ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.สอบถามเพิ่มเติม วัดพระสิงห์เชียงราย โทร.053-745-038 หรือ สำนักงาน ททท ภาคเหนือจังหวัดเชียงราย โทร. 0 53-71 7-433, 053-700-051-2  เว็บไซต์ www.facebook.com/watphrasingha
วัดพระสิงห์
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org

4. วัดพระธาตุผาเงา

ความศักดิ์สิทธิ์ของ วัดพระธาตุผาเงา ตามความเชื่อของชาวบ้านนั้น เชื่อกันว่า หากใครเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วมา สักการะบูชาที่วัดนี้ อาการป่วยก็จะทุเลาลงและหายในที่สุดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่ขณะเดียวกัน ความเก่าแก่ของวัดกลับคงความคลาสสิกผ่านสถาปัตยกรรมสวยงามแบบล้านนาและได้รับการดูแลรักษาอย่างดี สำหรับชื่อผาเงานั้น มีที่มาจากหินก้อนใหญ่อันเป็นที่ตั้งของวัด ซึ่งหินก้อนนี้คอยให้ร่มเงาอันร่มรื่น กล่าวกันว่าสมัยก่อนวัดนี้มีความรุ่งเรืองมากในสมัยโยนกนคร แต่ถูกทิ้งร้างมานาน จนกระทั่งได้มีการสำรวจก็พบ
พระพุทธรูปที่สวยงามเก่าแก่องค์หนึ่ง คือ หลวงพ่อผาเงา ซึ่งเป็นศิลปะแบบสุโขทัย นั่งขัดสมาธิ ประดิษฐานอยู่บนอิฐโบราณที่วางเรียงรายกันเป็นฐานใหญ่มั่นคง เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านที่เลื่อมใส อีกทั้งยังมีอุโบสถสวยงาม ภายในประดับด้วยภาพไม้แกะสลักบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติตามแบบฉบับล้านนา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการค้นพบเจดีย์โบราณสามองค์ที่ทรุดโทรมมาก จึงได้มีการสร้างพระบรมธาตุพุทธนิมิตเจดีย์ครอบองค์พระธาตุเจดีย์เดิมไว้ หลังจากชมความงามคลาสสิกของวัดกันเต็มอิ่มแล้ว อย่าลืมชมวิวแม่น้ำโขงซึ่ง มุมมองจากวัดพระธาตุผาเงาแห่งนี้ จะมอบภาพทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงตัดกับผืนทรายและป่าไม้สีเขียว ที่น่าประทับใจอีกมุมหนึ่งเลยทีเดียว สอบถามเพิ่มเติม วัดพระธาตุผาเงา โทร.053-777-151
วัดพระธาตุผาเงา
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org

5. วัดถ้ำป่าอาชาทอง

จากเอกลักษณ์ของการขี่ม้าบิณฑบาตรของพระครูบาเหนือชัย โฆสิโต เจ้าอาวาส วัดถ้ำป่าอาชาทอง ทำให้ท่านเป็นที่กล่าวขานในหมู่ชาวบ้านที่เลื่อมใส ชื่อของท่านจึงเริ่มเป็นที่รู้จักและเพราะความพิเศษ ไม่เหมือนใครเช่นนี้นี่เอง วัดถ้ำป่าอาชาทอง จึงกลายเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ที่นักท่องเที่ยว ต้องแวะมาชมเมื่อมาเยือนเชียงราย และการขี่ม้าบิณฑบาตรได้กลายเป็นวัตรปฏิบัติของภิกษุสงฆ์ประจำวัดแห่งนี้ ซึ่งทุกเช้าเหล่าภิกษุจากวัดถ้ำป่าอาชาทองจะนั่งบนหลังม้าอย่างสง่างาม เดินทางมารับบาตรจากชาวบ้าน ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลหลายกิโลเมตร ทั้งยังมีเส้นทางเป็นภูเขาสูงที่ทำให้การเดินทางยากลำบาก แต่การขี่ม้าก็สามารถนำพาไปได้ทุกที่
อย่างไรก็ตาม วัดถ้ำป่าอาชาทองนั้นเกิดจากความตั้งใจอันแน่ว ของพระครูบาเหนือชัยที่ต้องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพื้นที่ทุรกันดาร ท่านจึงพยายามส่งเสริม ให้ชาวบ้านส่งลูกหลานมาบวชเรียนที่นี่ และในส่วนของกิจกรรมที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวคงหนีไม่พ้น การทำบุญตักบาตรที่ลานพระแก้วในตอนเช้าเวลา 7.00-7.30 น. และหากใครไม่ได้นำของมา ทางวัดยังมีของสำหรับใส่บาตรจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน จากนั้นชวนกันผ่อนคลายไปกับบรรยากาศอันร่มรื่นภายในวัด ชมโรงเลี้ยงม้า นั่งจิบกาแฟยามเช้า และสนทนาธรรมกับครูบาเหนือชัย ก็น่าจะเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสทีเดียว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย วัดถ้ำป่าอาชาทอง โทร. 053-715-690
วัดถ้ำป่าอาชาทอง
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org

 6. วัดพระธาตุดอยจอมทอง

วัดพระธาตุดอยจอมทอง เป็น สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่มีตำนานเคียงคู่มากับประวัติการสร้างเมืองเชียงราย โดยองค์พระธาตุจอมทองแห่งนี้ ไม่เพียงมีชื่อที่เป็นมงคลนามเท่านั้น หากยังเป็นเจดีย์ตามศิลปะแบบล้านนาพุกามที่หุ้มทองคำสวยงามมากทีเดียว
ย้อนตำนานในอดีต
มีการสันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้เกิดก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะมาพบดินแดนบริเวณนี้และสร้างเป็นเมืองเชียงราย ในปี พ.ศ.1815 เสียอีก โดยอ้างตามหลักฐานที่ปรากฏในหนังสือพงศวดารโยนกของพระยาประชากรจักร ซึ่งกล่าวว่า เมื่อพระพุทธศาสนามีอายุราวๆ 936 ปีแล้วนั้น มีพระเถระเจ้ารูปหนึ่ง ชื่อว่า พระพุทะโฆษา เป็นชาวโกศล ได้ออกเดินทางไปลังกาทวีป เพื่อนำคัมภีร์พระไตรปิฏกแห่งลังกาทวีปมาสู่สามัญทวีปและพุกามประเทศต่อมาก็ได้นำเข้ามาสู่โยนกนครไชยบุรีศรีเชียงแสนในอาณาจักรไทย โดยในวันจันทร์ขึ้น 5 ค่ำเดือน 6 ปีชวด พ.ศ.1483 ท่านได้นำพระบรมสารีริกธาตุ 3 ขนาดรวม 16 องค์ มาถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองโยนกนาคพันธ์ในขณะนั้น พระองค์ได้แบ่งเป็นพระธาตุขนาดใหญ่หนึ่ง ขนาดกลางสองรวมสามองค์ส่งให้พญาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนารายณ์ (บริเวณอำเภอเวียงชัยในปัจจุบัน) ส่วนหนึ่งบรรจุลงมหาสถูปบนดอยทอง ขนานนามว่าพระธาตุดอยจอมทอง ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันกับที่บรรจุลงมหาสถูปบนดอยทองนั้นเอง พระเจ้าพังคราชก็ได้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เหลือ ไปเก็บรักษาไว้ที่ดอยน้อยซึ่งในปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในชื่อวัดพระธาตุจอมกิตตินั่นเองสอบถามเพิ่มเติม โทร.053-716-055 นอกจากนี้ สมาคมท่องเที่ยวเชียงรายได้มีการจัดแพ็คเกจทัวร์พระธาตุ 9 จอมสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.053-601-299
ที่ตั้ง : วัดพระธาตุดอยจอมทอง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย การเดินทางเริ่มต้นจากห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช เข้าถนนอุตรกิจไปจนถึงสี่แยกพหลโยธิน (สายใน) เลี้ยวขวาผ่านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสิงหไคล ผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ แล้วขับตรงไปจนถึงปากทางเข้าศาลากลางจังหวัด จึงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนไตรรัตน์ ผ่านวัดพระแก้ว เลี้ยวขวาผ่านโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม เลี้ยวขวาอีกครั้งหนึ่งขึ้นดอยทองผ่านวัดงำเมืองไปประมาณ 350 เมตร ก็จะถึงปากทางขึ้นพระธาตุดอยจอมทอง
วัดพระธาตุดอยจอมทอง
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org

7. สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย แนวพุทธ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง

ในอดีตนั้น เมืองเชียงแสนถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญระดับเมืองหลวงสำหรับล้านนา เดิมชื่อ เวียงหิรัญนครเงินยาง พระเจ้าแสนภู พระราชนัดดาของพระเจ้าเม็งราย ปฐมกษัตริย์แห่งล้านน้าได้สร้างเมืองนี้ขึ้น เพื่อใช้เป็นศูนย์ควบคุมดูแลหัวเมืองต่างๆในแคว้นโยนก และใช้ติดต่อกับบ้านเมืองริมแม่น้ำโขง วัดพระธาตุเจดีย์หลวงนั้น พระเจ้าแสนภูทรงสร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับการสร้างเมืองเชียงแสน ดังนั้นวันแห่งนี้จึงมีความเก่าแก่และศักดิสิทธิ์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองนั่นเอง

วัดพระธาตุเจดีย์หลวง สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ.1887 ปัจจุบันมีอายุกว่า 670 ปีแล้ว พระธาตุเจดีย์หลวงนั้นได้ชื่อมาจาก พระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงระฆังแบบล้านนาที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในเชียงแสน แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานแต่พระเจดีย์ก็ยังคงตั้งอยู่อย่างมั่นคง แสดงความเจริญรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ของเชียงแสนในอดีตกาล รวมถึงศรัทธาต่อพุทธศาสนาที่ยังไม่เสื่อมคลายจนทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังมีพระวิหารโบราณที่เก่าแก่พังทลายไปบ้างและเจดีย์ธาตุต่าง ๆ อีก 8 องค์ ปัจจุบันได้รับการดูแลและบูรณะอย่างดี แต่ไม่มีการเสริมแต่งให้ผิดแผกไปจากเดิม เพียงรักษาไว้ซึ่งความทรงจำและประวัติศาสตร์เก่าแก่ของชาวล้านนาไท

ปัจจุบันเปิดให้เข้าเยี่ยมชมและสักการะได้อย่างอิสระ บรรยากาศร่มรื่นด้วยเงาจากต้นไม้ใหญ่รอบวัด สงบเงียบ มีบริการที่จอดรถ  เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 ทุกวัน นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะเที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนได้อีกด้วยเพราะอยู่ในบริเวณเดียวกัน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง โทร. 0 53-777-044 , องค์การบริหารส่วนตำบลเวียง โทร. 053-650-803

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : https://thai.tourismthailand.org

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงราย วัดพระธาตุเจดีย์หลวง
ขอบคุณรูปจาก https://thai.tourismthailand.org
Code ส่วนลด Shopee
แจก ฟรี โค้ดส่วนลด SHOPEE 100 บาท #Shopeebuddy ● เพียงสั่งซื้อของใน แอป SHOPEE ● นำโค้ดส่วนลดนี้ ไปใช้ได้เลย เพียงใส่โค้ด NEWYRCK ● ลดทันที 100 บาท เมื่อซื้อสินค้าผ่านแอปครั้งแรก ● ใช้ได้กับทุกร้านค้าใน SHOPEE (ขั้นต่ำ 200.-) ● ไม่มีเงื่อนไข อื่นๆแล้วเอาไปใช้ฟรีๆ ค่ะ หมดเขต 30 ธันวาคม 2561

เกร็ดความรู้ทั่วไป

ไหว้พระพรหมธูปกี่ดอก

ไหว้ศาลพระภูมิใช้ธูปกี่ดอก

ไหว้พระราหูใช้ธูปกี่ดอก

ไหว้รถใช้ธูปกี่ดอก

ไหว้ศาลตาศาลยายใช้ธูปกี่ดอก

พระประจำวันอาทิตย์

พระประจําวันจันทร์

พระประจําวันอังคาร